ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ TMB Group 3 Blog

วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

ทีเอ็มบี เปิดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดใหม่ อายุ 10 ปี


ทีเอ็มบี เปิดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดใหม่ อายุ 10 ปี



27 เมษายน 2555
          17 เมษายน 2555, กรุงเทพฯ: ครั้งแรกของวงการธนาคารไทย ทีเอ็มบีนำตลาดด้วยการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดใหม่ อายุ 10 ปี อันดับความน่าเชื่อถือระดับ A จากฟิทช์ เรทติ้งส์ อัตราดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี ซึ่งผู้ถือจะได้รับดอกเบี้ยล่วงหน้าทั้งปี โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันครบรอบเหมือนหุ้นกู้แบบเดิมๆ และธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ย ครั้งแรก 25 พฤษภาคม ศกนี้ นับเป็นมิติใหม่ในไทยที่ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับดอกเบี้ยล่วงหน้าทั้งปีไปใช้ก่อนใคร ตลอดอายุหุ้นกู้

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ในวันนี้ ทีเอ็มบีเริ่มเปิดให้จองหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดใหม่ ที่มีคุณลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากหุ้นกู้ทั่วไป โดยเพิ่มอำนาจให้นักลงทุนได้มีทางเลือกในรูปแบบการลงทุนในหุ้นกู้ที่มอบโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากเม็ดเงินเพิ่มขึ้น จากการได้รับดอกเบี้ยล่วงหน้า (Quick Interest) ทุกปี ไม่ต้องรอให้ถึงวันครบรอบปีของหุ้นกู้ และสามารถนำดอกเบี้ยที่ได้รับเร็วขึ้นนี้ไปลงทุนต่อเพื่อให้เกิดประโยชน์เพิ่มขึ้นอีก นับเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ลูกค้า และถือมิติใหม่ในการออกหุ้นกู้ในประเทศไทย ตามเป้าหมายในการมุ่งเพิ่มประโยชน์และสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าของธนาคาร

ธนาคารจะปิดการจองซื้อหุ้นกู้ชุดนี้ ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2555 และจะจ่ายดอกเบี้ยงวดแรก ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2555 ทันที ส่วนในปีถัดๆไป จะจ่ายทุกวันที่ 18 พฤษภาคม ตลอดอายุหุ้นกู้ เมื่อครบกำหนดไถ่ถอนธนาคารจะคืนเงินต้นให้ทั้งหมด

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ ทีเอ็มบี ชุดนี้ มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A จากการจัดอันดับของ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้ง(ประเทศไทย) จำกัด เสนอขายให้กับบุคคลทั่วไปทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล บุคคลธรรมดา จำนวนจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และเพิ่มเป็นทวีคูณของ 100,000 บาท วงเงินรวมในการเสนอขายทั้งหมดไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยธนาคารจะโอนดอกเบี้ยล่วงหน้าเข้าบัญชีเงินฝากไม่ประจำ No Fixed ของผู้ถือหุ้นกู้ทุกปี เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่มากยิ่งขึ้น ส่วนผู้ถือหุ้นกู้ที่เป็นนิติบุคคลจะได้รับดอกเบี้ยโดยการโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวัน ทั้งนี้ ธนาคารมีสิทธิในการไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด หลังปีที่ 5

หุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดนี้จะช่วยขยายฐานกองทุนขั้นที่ 2 ของธนาคาร เป็นการเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจ และรองรับลูกค้าเงินฝากและตั๋วแลกเงินที่กำลังจะครบกำหนด

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ที่ ทีเอ็มบี ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ ทีเอ็มบี คอลเซ็นเตอร์ โทร.1558


         สรุปและวิเคราะห์ : นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีเผยว่า ทีเอ็มบีเริ่มเปิดให้จองหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดใหม่ ที่มีคุณลักษณะ พิเศษที่แตกต่างจากหุ้นกู้ทั่วไป คือ ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดใหม่ อายุ 10 ปี อันดับความน่าเชื่อถือระดับ A จากฟิทช์ เรทติ้งส์ อัตราดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี ซึ่งผู้ถือจะได้รับดอกเบี้ยล่วงหน้าทั้งปี โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันครบรอบ เหมือนหุ้นกู้แบบเดิมๆ และธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ย ครั้งแรก 25 พฤษภาคม ศกนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อได้ที่ ทีเอ็มบี ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ ทีเอ็มบี คอลเซ็นเตอร์ โทร.1558

        ผู้เสนอข่าว : นาย กฤศ  ชัยประดิษฐ ID : 53112804114

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

TMB กำไรไตรมาสแรก 1,032 ล. เพิ่ม 6.5%


ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พุธที่ 18 เมษายน 2555

            นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารทำกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2555 จำนวน 1,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 5.9% จากระยะเดียวกันปีก่อน กำไรดังกล่าวเป็นผลจากธนาคารมีผลการดำเนินงานหลักดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยส่วนต่างดอกเบี้ยรับ (NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 2.51% จาก 2.46% ขณะเดียวกัน รายได้ปรับตัวขึ้นทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 59.0% เมื่อเทียบกับ76.5%  ในไตรมาสที่ 4/2554 ขณะที่สินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 ส่งผลให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมและตั๋วเงินฝาก (loan to deposit  & B/E ratio) อยู่ที่ระดับ 87.0% ด้านหนี้เสียอยู่ที่ 30,470 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจำนวน 642 ล้านบาท จากสิ้นปี 2554 อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 74% เมื่อเทียบกับ73% ณ สิ้นปี 2554


สรุปและวิเคราะห์ข่าว : กำไรดังกล่าวเป็นผลจากธนาคารมีผลการดำเนินงานหลักดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยส่วนต่างดอกเบี้ยรับ (NIM) เพิ่มขึ้นเป็น 2.51% จาก 2.46% ขณะเดียวกัน รายได้ปรับตัวขึ้นทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 59.0% เมื่อเทียบกับ76.5%  ในไตรมาสที่ 4/2554

ผู้เสนอข่าว : นายสันติ พงษ์บริบูรณ์  ID : 53112804113