ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ TMB Group 3 Blog

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

TMB บวก 2.68% โบรกฯแนะซื้อเก็งกำไรปรับเป้าสินเชื่อ,กำไรปี55-56ขึ้น



        


        TMB บวก 2.68% อยู่ที่ 1.53 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท เมื่อเวลา 10.04 น.โดยเปิดตลาดที่ 1.52 บาท สูงสุด 1.54 บาท ต่ำสุด 1.51 บาท มูลค่าซื้อขาย 37.89 ล้านบาท บล.บัวหลวง แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น ธนาคารทหารไทย (TMB) ราคาเป้าหมาย 1.72 บาท สินเชื่อที่เติบโตแข็งแกร่งจาก SME และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของแบงค์ชาติรวม 40 พันล้านบาท ได้ปรับเพิ่มประมาณการสินเชื่อปี 2555-56 12% และ 10% ตามลำดับ พร้อมกันนี้ ได้เพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2555-56 ขึ้นอีก 3% มาอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท และ 4% มาอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท ตามลำดับ หนุนโดยสินเชื่อ SME ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2555 มาอยู่ที่ 1.72 บาท จาก 1.60 บาท

วิเคราะห์ข่าว : บล.บัวหลวง แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น ธนาคารทหารไทย (TMB) ราคาเป้าหมาย 1.72 บาท สินเชื่อที่เติบโตแข็งแกร่งจาก SME และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของแบงค์ชาติได้ปรับเพิ่มประมาณการสินเชื่อปี 2555-56 12% และ 10% ตามลำดับ กำไรสุทธิปี 2555-56 ขึ้นอีก 3% มาอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท และ 4% มาอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท ตามลำดับ


ผู้เสนอข่าว : นางสาวณัฐชนิดา ชูสกุล ID 53112804109

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สรุปข่าวเด่นประจำสัปดาห์


22 กรกฎาคม – 29 กรกฎาคม 2555

หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)

                ทางบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) CPF เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้  มีอันดับความน่าเชื่อถือ AA- แนวโน้มคงที่ จัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรสติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2555 ได้เปิดให้จองซื้อหุ้นกู้ ตั้งแต่วันที่ 26-27 ก.ค. และ 31 ก.ค.-1 ส.ค. นี้


วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

โปรโมชั่น


พบกับ หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)

รายละเอียดของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคาร
หุ้นกู้หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2555
ชนิดหุ้นกู้หุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
อันดับความน่าเชื่อถือAA- แนวโน้มคงที่ โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2555
มูลค่าหุ้นกู้ที่เสนอขายรวมประมาณ 12,000 ล้านบาท
อายุและอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้หุ้นกู้ชุดที่ 1: อายุ 7 ปี
ปีที่ 1 – 4 : 4.35%
ปีที่ 5 – 7 : 5.00%
(อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 4.60%)

หุ้นกู้ชุดที่ 2: อายุ 10 ปี
ปีที่ 1 – 4 : 4.40%
ปีที่ 5 – 9 : 5.00%
ปีที่ 10 : 6.00%
(อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 4.81%)

หุ้นกู้ชุดที่ 3: อายุ 20 ปี
อัตราผลตอบแทนคงที่ 5.30%
การชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน
อัตราดอกเบี้ยช่วงจองซื้อเป็นอัตราดอกเบี้ยเดียวกันกับดอกเบี้ยของหุ้นกู้ ในอัตรา 4.50% ต่อปี
ระยะเวลาจองซื้อและชำระเงิน
  • ผู้ถือหุ้นกู้เดิม* วันที่ 26-27 ก.ค. 2555
  • ผู้ลงทุนสถาบัน สหกรณ์ และมูลนิธิ และผู้ลงทุนทั่วไป วันที่ 31 ก.ค.- 1 ส.ค. 2555
มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำเสนอขายขั้นต่ำ 100,000 บาทต่อชุด และทวีคูณของ 100,000 บาท
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน

* ผู้ถือหุ้นกู้เดิม หมายถึง ผู้ถือหุ้นกู้เดิมที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่ผู้ลงทุนสถาบัน สหกรณ์ และมูลนิธิ ซึ่งมีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนเพื่อพักการโอนสิทธิหุ้นกู้ในการรับดอกเบี้ยครั้งล่าสุดก่อนวันจองซื้อหุ้นกู้ ทั้งนี้ เฉพาะรุ่นที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอนก่อนวันที่ในหนังสือฉบับนี้ (ได้แก่ หุ้นกู้ CPF12OA, CPF138A, CPF13NA, CPF14NA, CPF15NA, CPF155A, CPF155B, CPF14NB, CPF17NA, CPF188A, CPF218A, CPF418A, CPF41DA และ CPF163A)

วิเคราะห์ข่าว : ทางบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) CPF ได้เปิดให้จองซื้อหุ้นกู้ ตั้งแต่วันที่ 26-27 ก.ค. และ 31 ก.ค.-1 ส.ค. นี้


ผู้เสนอข่าว : นายธงไชย เขมาธร ID 53112804112


วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สรุปข่าวเด่นประจำสัปดาห์

16 กรกฎาคม 22 กรกฎาคม 2555



TMB กำไร 1.2 พันล้าน สินเชื่อ-เงินฝากโตต่อเนื่อง

                ทีเอ็มบี มีกำไร 1,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% จากไตรมาสก่อนจากการขยายตัวทางด้านสินเชื่อ และเงินฝากอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ในไตรมาส2/2555 ธนาคารมีผลการดำเนินงานหลักดีขึ้นอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อ และการบริหารจัดการต้นทุนเงินฝาก ด้านเงินฝากเพิ่มขึ้น 7.0% เป็นผลจากมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่องของเงินฝาก “บัญชีเงินฝากไม่ประจำทีเอ็มบี” (TMB No Fixed) และเงินบริการธนาคารรูปแบบใหม่“ME by TMB” ตลอดจนผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “One Bank One Account” ที่ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจสามารถทำธุรกรรมทางการเงินทุกสาขาของทีเอ็มบีทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความสะดวกและง่าย นับเป็นบริการที่ธนาคารจัดทำขึ้นเพื่อมอบประโยชน์ให้ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างแท้จริงภายใต้แนวคิดที่ว่า ลูกค้า คือ ลูกค้าของธนาคารไม่ใช่ลูกค้าเฉพาะสาขาใดสาขาหนึ่ง




วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

TMB กำไร 1.2 พันล้าน สินเชื่อ-เงินฝากโตต่อเนื่อง


TMB กำไร 1.2 พันล้าน สินเชื่อ-เงินฝากโตต่อเนื่อง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
19 กรกฎาคม 2555 
                ทีเอ็มบีเผย ไตรมาส 2 มีกำไร 1,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% จากไตรมาสก่อน ระบุ จากการขยายตัวทางด้านสินเชื่อ และเงินฝากอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
         นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (จำกัด) (มหาชน) (ทีเอ็มบี) เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,263 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ของปี 2555 ซึ่งเพิ่มขึ้น 22.4% เมื่อเทียบไตรมาสที่แล้ว และ 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2554 ขณะที่ครึ่งปีมีกำไรสุทธิ 2,295 ล้านบาท
     นายบุญทักษ์กล่าวอีกว่า ในไตรมาส 2/2555 ธนาคารมีผลการดำเนินงานหลัก (core operation) ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งรายได้ดอกเบี้ย และมิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ (Net Interest Margin-NIM) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2.67% จาก 2.51% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 และ 2.45% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อ และการบริหารจัดการต้นทุนเงินฝาก ในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 16.4% จากไตรมาสที่แล้ว จากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ และค่าธรรมเนียมสินเชื่อ
        ทั้งนี้ เงินให้สินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 6.0% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งนี้ สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กมีการขยายตัวเพิ่มมากที่สุด หรือประมาณ 5,000 ล้านบาทในไตรมาสนี้ และ 10,000 ล้านบาท สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี
       ด้านเงินฝากเพิ่มขึ้น 7.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 7.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2554 ทั้งนี้ เป็นผลจากมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเงินฝาก บัญชีเงินฝากไม่ประจำทีเอ็มบี” (TMB No Fixed) และเงินบริการธนาคารรูปแบบใหม่ “ME by TMB” ตลอดจนผลิตภัณฑ์ใหม่ “One Bank One Account” ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิด Make THE Difference ของธนาคาร โดย One Bank One Account เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจสามารถทำธุรกรรมทางการเงินทุกสาขาของทีเอ็มบีทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความสะดวกและง่าย นับเป็นบริการที่ธนาคารจัดทำขึ้นเพื่อมอบประโยชน์ให้ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิดที่ว่า ลูกค้า คือ ลูกค้าของธนาคารไม่ใช่ลูกค้าเฉพาะสาขาใดสาขาหนึ่ง
        ในด้านการบริหารสภาพคล่อง ธนาคารยังคงดำเนินการด้วยนโยบายที่รอบคอบ ระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง โดยมีการดำรงสภาพคล่องไว้ในระดับสูง ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วเงินฝาก (loan to deposit & BE ratio) ซึ่งอยู่ที่ 86.5% ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2555
         “ไตรมาสนี้ สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร และบริษัทย่อยมีจำนวนลดลง 2,301 ล้านบาทจากสิ้นไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 28,169 ล้านบาท ในขณะที่สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร และบริษัทย่อยลดลงจาก 5.84% มาอยู่ที่ 5.58% ซึ่งสำหรับงบเฉพาะธนาคาร สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 5.17% และในไตรมาสนี้ ธนาคารได้มีการตั้งสำรองทั้งสิ้นจำนวน 932 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 79.0% จาก 74.0% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว
        อนึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 2/2555 ธนาคารดำรงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio-CAR) อยู่ที่ 18.7% ซึ่งเป็นกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ในสัดส่วน 11.5%


สรุปและวิเคราะห์ข่าว : ทีเอ็มบี มีกำไร 1,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% จากไตรมาสก่อน จากการขยายตัวทางด้านสินเชื่อ และเงินฝากอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ในไตรมาส 2/2555 ธนาคารมีผลการดำเนินงานหลักดีขึ้นอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อ และการบริหารจัดการต้นทุนเงินฝาก ด้านเงินฝากเพิ่มขึ้น 7.0% เป็นผลจากมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเงินฝาก บัญชีเงินฝากไม่ประจำทีเอ็มบี” (TMB No Fixed) และเงินบริการธนาคารรูปแบบใหม่ “ME by TMB” ตลอดจนผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “One Bank One Account” ที่ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจสามารถทำธุรกรรมทางการเงินทุกสาขาของทีเอ็มบีทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความสะดวกและง่าย นับเป็นบริการที่ธนาคารจัดทำขึ้นเพื่อมอบประโยชน์ให้ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิดที่ว่า ลูกค้า คือ ลูกค้าของธนาคารไม่ใช่ลูกค้าเฉพาะสาขาใดสาขาหนึ่ง

ผู้เสนอข่าว : นางสาวสุติมา  บุญฉิม ID.53112804119

TMB กำไร Q2/55 โต 5.7% จาก Q2/54 ตามรายได้-NIM สูงขึ้น


            
            ธนาคารทหารไทย (TMB) รายงานว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,263 ล้านบาทในไตรมาส 2/55 ซึ่งเพิ่มขึ้น 22.4% เมื่อเทียบไตรมาสที่แล้ว และ 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 54 สำหรับครึ่งปีมีกำไรสุทธิ 2,295 ล้านบาท
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าวว่า ในไตรมาส 2/55 ธนาคารมีผลการดำเนินงานหลัก (core operation) ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งรายได้ดอกเบี้ยและมิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ(Net Interest Margin—NIM)ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 2.67% จาก 2.51% ในไตรมาสที่ 1/55 และ 2.45% ในไตรมาส 2/54 อันเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อและการบริหารจัดการต้นทุนเงินฝาก ในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 16.4% จากไตรมาสที่แล้ว จากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์และค่าธรรมเนียมสินเชื่อ
เงินให้สินเชื่อของธนาคารเพิ่มขึ้น  5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 6.0% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 54 เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งนี้สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กมีการขยายตัวเพิ่มมากที่สุดหรือประมาณ 5,000 ล้านบาทในไตรมาสนี้ และ 10,000 ล้านบาทสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี
ธนาคารมีปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้น 7.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และ 7.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 54 ทั้งนี้เป็นผลจากมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเงินฝากบัญชีเงินฝากไม่ประจำทีเอ็มบี"(TMB No Fixed)และเงินบริการธนาคารรูปแบบใหม่“ME by TMB"ตลอดจนผลิตภัณฑ์ใหม่“One Bank One Account"ภายใต้แนวคิด Make THE Difference โดย One Bank One Account เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจสามารถทำธุรกรรมทางการเงินทุกสาขาทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยความสะดวก
ในด้านการบริหารสภาพคล่อง ธนาคารยังคงดำเนินการด้วยนโยบายที่รอบคอบระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยมีการดำรงสภาพคล่องไว้ในระดับสูง ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วเงินฝาก (loan to deposit & BE ratio) ซึ่งอยู่ที่ 86.5% ณ สิ้นไตรมาสที่  2/55
ไตรมาสนี้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวนลดลง 2,301 ล้านบาทจากสิ้นไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 28,169 ล้านบาท ในขณะที่สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยลดลงจาก 5.84% มาอยู่ที่ 5.58%  ซึ่งสำหรับงบเฉพาะธนาคาร สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 5.17% และในไตรมาสนี้ ธนาคารได้มีการตั้งสำรองทั้งสิ้นจำนวน 932 ล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 79.0% จาก 74.0% ณ สิ้นไตรมาสที่แล้ว
ณ สิ้นไตรมาส 2/55 ธนาคารดำรงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio-CAR)อยู่ที่ 18.7% ซึ่งเป็นกองทุนชั้นที่ 1(Tier 1)ในสัดส่วน 11.5%


วิเคราะห์ข่าว : ธนาคารทหารไทย (TMB) รายงานว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 1,263 ล้านบาทในไตรมาส 2/55 ซึ่งเพิ่มขึ้น 22.4% เมื่อเทียบไตรมาสที่แล้ว และ 5.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 54 สำหรับครึ่งปีมีกำไรสุทธิ 2,295 ล้านบาทและไตรมาสนี้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษัทย่อยมีจำนวนลดลง 2,301 ล้านบาทจากสิ้นไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 28,169 ล้านบาท

ผู้เสนอข่าว : นายวรพงษ์ เจริญสรรพพืช ID : 53112804116

ทีเอ็มบี จับมือเครือเบทาโกร สนับสนุนสินเชื่อ



ทีเอ็มบี จับมือเครือเบทาโกร สนับสนุนสินเชื่อ
19 กรกฎาคม 2555
กรุงเทพฯ, 16 กรกฎาคม 2555: ทีเอ็มบีร่วมกับเครือเบทาโกรมอบโอกาสธุรกิจเจ้าของฟาร์ม ปศุสัตว์เพื่อผู้ประกอบการหน้าใหม่ ด้วยสินเชื่อสร้างฟาร์มที่ได้รับการดูแลจากเครือเบทาโทร โดยให้ระยะปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนาน สามารถผ่อนชำระสินเชื่อตามรอบการจ่ายเงินค่าจ้างเลี้ยงจากเครือเบทาโกร อีกทั้งคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษ ช่วยเกษตรกรหมดห่วงเรื่องการบริหารจัดการเงิน

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า ทีเอ็มบีได้ก้าวไปอีกขั้นสู่การมอบอำนาจทางการเงิน (Empowering Customer) ตามแนวคิด Make THE Difference ด้วยการร่วมกับเครือเบทาโกรในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ประกอบการหน้าใหม่ได้มีโอกาสในการเป็นเจ้าของและประสบความสำเร็จในธุรกิจฟาร์มได้ จากความเชี่ยวชาญและการเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมการผลิตปศุสัตว์ของเครือเบทาโกรที่ช่วยดูแลให้คำปรึกษาแก่เกษตรกร ร่วมกับการสนับสนุนสินเชื่อจากทีเอ็มบีที่เกิดจากการเข้าไปศึกษาและทำความเข้าใจความต้องการด้านการเงินของเกษตรกรอย่างแท้จริง ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจในการประสบความสำเร็จในธุรกิจและหมดห่วงเรื่องบริหารจัดการเงินในขณะเดียวกัน ส่งผลให้ชีวิตเกษตรกรดีขึ้น อีกทั้งการสนับสนุนให้เกษตรกรมีธุรกิจฟาร์มเป็นการช่วยพัฒนาการเกษตร ซึ่งสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ เป็นแหล่งหาเงินตราต่างประเทศจากการส่งออกผลผลิตที่มีคุณภาพทั้งจากภาคเกษตรโดยตรงและที่ต่อเนื่องการเกษตร การให้สินเชื่อภาคเกษตรจึงมีส่วนสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคธุรกิจอื่นๆ อีกด้วย ทั้งนี้ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ สินเชื่อเพื่อสร้างฟาร์มปศุสัตว์กับเครือเบทาโกรโดย นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือ เบทาโกร เมื่อเร็วๆนี้

ทีเอ็มบีเห็นว่าในปัจจุบัน ธุรกิจฟาร์มโดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงสุกร เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและน่าสนใจสำหรับเกษตรกร โดยในปีที่ผ่านมามีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรเพิ่มขึ้นกว่า 27,000 ครัวเรือนหรือเพิ่มขึ้นประมาณ 13.6% เนื่องจากปริมาณความต้องการบริโภคเนื้อสุกรยังคงมีสูงกว่าความสามารถในการผลิตสุกรทั่วประเทศ และหากเกษตรกรเลือกดำเนินธุรกิจในรูปแบบฟาร์มจ้างเลี้ยงกับเครือเบทาโกรซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมการผลิตปศุสัตว์แล้ว ก็จะสามารถลดความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเกษตรกรจะได้รับการอบรมก่อนการดำเนินการ และได้รับการดูแลจากเครือเบทาโกรตลอดระยะเวลาการดำเนินการฟาร์ม ทำให้สุกรที่เลี้ยงมีคุณภาพตามมาตรฐาน และมีตลาดที่แน่นอน อย่างไรก็ตามพบว่าเกษตรกรยังคงมีข้อจำกัดด้านเงินลงทุนในการก่อสร้างโรงเรือนแบบมาตรฐานซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการเริ่มต้นดำเนินธุรกิจนี้

ทีเอ็มบีได้เข้าไปศึกษาถึงความต้องการด้านเงินทุนและข้อจำกัดต่างๆของเกษตรกร พบว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินหรือสินเชื่ออื่นๆทั่วไปนั้น ไม่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง เนื่องจากธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์มีลักษณะหรือความต้องการที่แตกต่างจากธุรกิจทั่วๆไป ดังนั้นทีเอ็มบีจึงพัฒนา สินเชื่อเพื่อสร้างฟาร์ม ปศุสัตว์กับเครือเบทาโกรนี้ขึ้นเพื่อเกษตรกรกลุ่มนี้โดยเฉพาะ กล่าวคือกำหนดให้การผ่อนชำระค่างวดสอดคล้องกับระบบเงินหมุนเวียนของกิจการอย่างแท้จริง ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจที่กิจการยังไม่มีรายได้เข้ามา เกษตรกรจะได้รับระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย โดยจะเริ่มการผ่อนชำระเงินกู้เมื่อได้รับเงินค่าจ้างเลี้ยง ซึ่งจะสอดคล้องกับงวดการจ่ายเงินค่าจ้างเลี้ยงจากเครือเบทาโกร ทำให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่าจะสามารถผ่อนชำระสินเชื่อได้ตามกำหนด ส่งผลให้เกษตรกรสามารถดำเนินการฟาร์มปศุสัตว์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการบริหารการเงินอีกต่อไป ทั้งนี้ทีเอ็มบีให้วงเงินในการก่อสร้างโรงเรือนสุกรสูงสุดไม่เกิน 80% ของมูลค่าประเมินค่าก่อสร้างฟาร์ม อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ระยะเวลาผ่อนชำระสบายๆ และสามารถอนุมัติเงินกู้ได้รวดเร็ว คุณสมบัติผู้กู้เบื้องต้น คือ อายุไม่เกิน 58 ปี มีที่ดินเป็นของตนเอง และผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากเครือเบทาโกร โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์

ด้านนายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวว่า ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสุกร นับเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การที่เกษตรกรเลือกดำเนินธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสุกรกับเครือเบทาโกร จะได้รับการดูแลในด้านวิชาการ และการบริหารจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพโครงการนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของภาวะราคาสุกรในตลาด ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่าจะมีรายได้ที่แน่นอน ดังนั้น การที่เครือเบทาโกรร่วมมือกับทีเอ็มบีพัฒนาสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสุกรในครั้งนี้ จึงเป็นการตอบสนองต่อกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรโดยตรง เพราะทำให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นสินเชื่อเฉพาะกับธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสุกรด้วย


สรุปและวิเคราะห์ข่าว : ทีเอ็มบีร่วมกับเครือเบทาโกรมอบโอกาสธุรกิจเจ้าของฟาร์ม ปศุสัตว์เพื่อผู้ประกอบการหน้าใหม่ ด้วยสินเชื่อสร้างฟาร์มที่ได้รับการดูแลจากเครือเบทาโทร เป็นการตอบสนองต่อกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรโดยตรง เพราะทำให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยให้ระยะปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนาน สามารถผ่อนชำระสินเชื่อตามรอบการจ่ายเงินค่าจ้างเลี้ยงจากเครือเบทาโกร อีกทั้งคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษ ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจในการประสบความสำเร็จในธุรกิจและหมดห่วงเรื่องบริหารจัดการเงินในขณะเดียวกัน ยังส่งผลให้ชีวิตเกษตรกรดีขึ้น

ผู้เสนอข่าว : นางสาวสุจิตรา เคหารมย์ ID.53112804111

วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

TMB สนับสนุนวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนระยะยาว 150 ลบ.TSC ใช้ขยายธุรกิจ



            นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย(TMB) กล่าวว่า ธนาคารให้การสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่บมจ.ไทยสตีลเคเบิล(TSC) ซึ่งมีการวางแผนงบประมาณเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตอีก 5 ปีข้างหน้า สำหรับใช้ในงานก่อสร้างส่วนขยายของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ที่ได้เตรียมการผลิตเพื่อรองรับกับความต้องการจากผู้ผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชั้นนำต่อไป

            นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องมากขึ้น ธนาคารยังได้ให้บริการที่ให้ความสะดวกสบายในการรับ — จ่ายเงิน (Transactional Banking) รวมทั้งบริการ Cash Management ซึ่งเป็นโซลูชั่นทางธุรกิจ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
       
           "แม้อุตสาหกรรมยานยนต์จะได้รับผลกระทบจากอุทกภัยร้ายแรงในปี 2554 แต่ในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ใน ปี 2555 จะมีการผลิตรถยนต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา อันเป็นผลจากการลงทุนผลิตรถยนต์รุ่นใหม่และรถยนต์ยี่ห้อใหม่ที่เริ่มผลิตในประเทศ เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปประเทศสำคัญในเอเชีย รวมถึงนโยบายรถคันแรกของภาครัฐที่มีส่วนกระตุ้นให้เกิดอุปสงค์ (Demand )มากขึ้น"นายบุญทักษ์ กล่าว.

Credit : http://www.ryt9.com/s/iq05/1433418

วิเคราะห์ข่าว : นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย (TMB) มีการคาดการไว้ว่า ภายในอีก5ปีข้างหน้าการผลิตอุปกรณ์หรือรถยนต์ จะเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องจากปี 2554 มีภัยธรรมชาติน้ำท่วมอย่างรุนแรง ทำให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจตลาดรถยนต์ แต่คาดว่าภายในปี 2555 มีแนวโน้มที่จะฟื้นฟูเพิ่มขึ้นร้อยละ 33และจะมีรถยนต์รุ่นใหม่และรถยนต์ยี่ห้อใหม่ ออกมาเพื่อกระตุ้นตลาดรถยนต์อย่างแน่นอน

ผู้เสนอข่าว : นาย กฤศ  ชัยประดิษฐ ID 53112804114

สรุปข่าวเด่นประจำสัปดาห์

9 กรกฎาคม 15 กรกฎาคม 2555



“R3ถนนแห่งความมั่นคั่งของ SMEs ไทยสู่แดนมังกร

            TMB Analytics เห็นว่า SMEs ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งจากถนนสาย R3 (เส้นทางR3 เป็นเส้นทางถนนที่ตัดเชื่อมโยงไทย-ลาว -จีนเป็นสายพานลำเลียงสินค้าสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการส่งออก โดยเฉพาะค่าขนส่ง เนื่องจากย่นระยะทางการส่งสินค้าสู่ตลาดจีนตอนใต้ (จากเดิมต้องส่งผ่านเมืองท่าชายฝั่งตะวันออกของจีนก่อนแล้วถึงส่งต่อไปตลาดจีนตอนใต้และลดระยะเวลาการขนส่ง ซึ่งเปิดโอกาสให้การส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของธุรกิจ SMEs โดยเข้าสู่ประเทศไทยที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ SMEs ไทยจะสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์จากการเชื่องโยงการค้าสู่ตลาดขนาดใหญ่และมีการเติบโตสูงในปัจจุบันและอนาคต หากเรามีการวางกลยุทธ์ในการใช้ถนนสาย R3 รุกตลาดจีนตอนใต้ที่ชัดเจนแล้ว SMEs ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากถนนสายนี้ ในฐานะของสะพานลำเลียงสินค้าอย่างแท้จริง



วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

CAN’T MISS : อิ่มคุ้ม 500 บ. รับเงินคืน 100 บ.



บัตรเครดิต TMB กับโปรดีๆที่ CAN’T MISS

CAN’T MISS : อิ่มคุ้ม 500 บ. รับเงินคืน 100 บ.

อิ่มคุ้มรับคืน 100 บาท เมื่อชำระค่าอาหารหรือเครื่องดื่มด้วยบัตรเครดิต TMB ที่ บาร์บีคิวพลาซ่า หรือ จุ่มแซบฮัท ทุกสาขา ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป 


ลงทะเบียน SMS เพื่อรับสิทธิ์พิมพ์ TMBJB เว้นวรรค 1 ครั้ง ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต TMB 12 หลักสุดท้ายส่งมาที่ 4806026 และรอข้อความยืนยันรับสิทธิ์1- 31 ก.ค. 55

เงื่อนไขการเข้าร่วมรายการเมื่อชำระค่าอาหารและเครื่องดื่มด้วยบัตรเครดิต TMB ที่บาร์บีคิว พลาซ่า หรือ จุ่มแซบฮัท ทุกสาขา ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป (คิดจากยอดใช้จ่ายจริงหลังจากหักส่วนลดต่างๆ แล้ว) ระหว่างวันที่ 1 – 31 ก.ค.55 มีสิทธิได้รับเงินคืนจำนวน 100 บาท สูงสุด 200 บาท/บัตร ตลอดรายการ

เฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต TMB ประเภทบุคคลธรรมดา ยกเว้นบัตรเครดิตองค์กรทุกประเภท ธนาคาร จะทำการคืนเงินเข้าบัญชีบัตรเครดิต ภายใน 3 รอบบัญชีถัดจากวันสิ้นสุดรายการ เฉพาะผู้มีบัตรฯที่มีการลงทะเบียน SMS เพื่อรับสิทธิสมบูรณ์ ภายในระยะเวลาที่กำหนด (ลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว) และมีสถานะบัตรฯปกติจนถึงวันที่มีการคืนเงินเข้าบัญชีบัตรฯ โดยยอดใช้จ่ายตามเซลล์สลิปที่ถูกนำมาคำนวณนั้นจะต้องถูกบันทึกลงระบบธนาคารก่อนวันตัดรอบบัญชี (Posted Date) และไม่รวมรายการที่ถูกยกเลิก

ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ข้อกำหนดและเงื่อนไข ระยะเวลา และสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ TMB Contact Center โทร. 1558

Credit : http://www.tmbbank.com/promotion/detail.php?id=224

วิเคราะห์ข่าว : ทางธนาคารทหารไทยได้มีโปรโมชั่น อิ่มคุ้มรับคืน 100 บาท เมื่อชำระค่าอาหารหรือเครื่องดื่มด้วยบัตรเครดิต TMB ที่ บาร์บีคิวพลาซ่า หรือ จุ่มแซบฮัท ทุกสาขา ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไปต่อเซลล์สลิป 

ผู้เสนอข่าว : นายธงไชย เขมาธร ID 53112804112

ใช้งาน TMB Internet Banking ผ่าน iPad ง่ายๆ

   




ข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ TMB Internet Banking

ใช้งาน TMB Internet Banking ผ่าน iPad ง่ายๆ

 

นอกจาก TMB Internet Banking ได้ถูกออกแบบให้ใช้งานได้ดีผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนแล้ว ธนาคารฯ ยังได้ออกแบบให้ TMB Internet Banking สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ คุณสามารถเข้าถึง TMB Internet Banking ง่ายๆ โดยการเพิ่ม TMB Internet Banking Icon บนหน้าจอ iPad ง่ายๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานครั้งต่อไปๆ ดังนี้
  1. เมื่อเข้าใช้งานเว็บ TMB Internet Banking (www.tmbdirect.com) ผ่านบราวเซอร์ Safari บนไอแพดครั้งแรก ที่ตำแหน่ง Navigation Bar ด้านบนคุณจะเห็น เครื่องหมาย 1) ย้อนกลับ 2) ไปหน้า 3) Bookmarks และ 4) เครื่องหมาย Add Bookmark ก่อนจะถึง URL bar
  2. เมื่อคลิกที่เครื่องหมาย Add Bookmark คุณจะเห็นตัวเลือก ดังนี้ 1) Add Bookmark, 2) Add to Home Screen และ 3) Mail Link to This Page
  3. เมื่อคุณเลือก Add to Home Screen คุณจะเห็น Icon ของ TMB Internet Banking ที่ธนาคารฯ ได้เตรียมไว้ เมื่อคลิก Add ก็เป็นอันเสร็จสิ้น 
เมื่อคุณต้องการเข้าใช้งาน TMB Internet Banking ครั้งต่อๆ ไป คุณเพียง คลิกที่ Icon TMB Internet Banking บนหน้า Desktop ของ iPad ของคุณค่ะ

บทความโดย: โอปอล เลิศอุทัย
ภาพโดย: www.apple.com

                         8 กรกฎาคม 2555 
Credit : http://www.tmbbank.com/personal/e-banking/guru/detail.php?id=12
         
วิเคราะห์ข่าว    : นับได้ว่าในสมัยนี้อะไรๆก็ดูจะง้ายสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างที่ธนาคารทหารไทย ยังได้ออกแบบให้ TMB Internet Banking สามารถใช้งานบน iPad ต่อไปนี้ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราก็สามารถทำงานหรือใช้บริการต่างๆของธนาคารได้ตามที่ใจต้องการ



ผู้เสนอข่าว : นาย อนุศักดิ์ บัวสมบูรณ์ ID: 53112804110 

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

“R3” ถนนแห่งความมั่นคั่งของ SMEs ไทยสู่แดนมังกร

         
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics แนะใช้ถนนสายยุทธ์สาสตร์ R3 เป็นสายพานลำเลียงสินค้าผ่านด่านเชียงราย เจาะตลาดจีนตอนใต้ถึงนครคุนหมิง กระตุ้นส่งออก SMEs ไทยไปจีน

           ในขณะที่ตัวเลขส่งออกไทยแสดงถึงการพึ่งพาตลาดจีนเพิ่มขึ้นทุกปี แต่การบุกตลาดจีนสำหรับ SMEs ไทยนั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งที่การส่งออกไปจีนฟื้นตัวอย่างรวดเร็วท่ามกลางสัญญาณกาชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทย โดยในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ มูลค่าการส่งออกไทยไปยุโรปและญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 9.4 และ ร้อยละ 2.4 แต่มูลค่าการส่งออกไปจีนกลับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10.9 โดยล่าสุดเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 25.7 เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนแค่ชะลอตัวลงอย่างช้าๆ (Soft Landing) ตามเศรษฐกิจโลกและน่าจะฟื้นตัวเร็ว (Quick Recovery) ได้ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ รวมถึงการวางกลยุทธศาสตร์เศรษฐกิจระยะยาวในภูมิภาคต่างๆ ของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายพัฒนาเมืองคุนหมิง มณฑลหยุนหนาน เป็น หัวสะพานเชิ่อมการค้า-คมนาคมระหว่างจีนตอนใต้ (มณฑลหยุนหนานและกวางสี) กับเอเชียใต้ (อินเดีย)และอาเซียน (ไทย เวียดนาม ลาว พม่า) โดยเปิดใช้สนามบินนานาชาติฉางสุ่ยในนครคุนหมิงที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศด้วยงบลงทุนกว่า 1.1 แสนล้านบาท รองรับผู้โดยสารกว่า 68 ล้านคนต่อปี (สุวรรณภูมิรองรับเพียง 45 ล้านคนต่อปี) พร้อมแผนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทางเชื่อมต่อเมืองคุนหมิงกับไทย พม่า และเวียดนาม และโครงข่ายถนนเชื่อมต่อจีนตอนใต้กับอาเซียน (ถนนสาย R3) โดยเข้าสู่ประเทศไทยที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ SMEs ไทยจะสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์จากการเชื่องโยงการค้าสู่ตลาดขนาดใหญ่และมีการเติบโตสูงในปัจจุบันและอนาคต โดย TMB Analytics เห็นว่า SMEs ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งจากถนนสาย R3 ทั้ง SMEs ในภาคเหนือและทั่วประเทศ

1. SMEs ในภาคเหนือ สามารถค้าขายกับจีนตอนใต้ตรง แม้ว่าปัจุบันมูลค่าส่งออกจากไทยไปจีนตอนใต้เพียง 3.7 พันล้านบาท ซึ่งมูลค่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับมูลค่าส่งออกของไทยไปพม่าและลาวที่สูงถึง 33.5 และ 11.4 พันล้านบาท หาก SMEs ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากถนนสาย R3 เชื่อมโยงการค้า ก็จะเพิ่มมูลค่าส่งออกได้อีกมหาศาล เพราะจีนตอนใต้มีประชากรถึง 92.8 ล้านคน ซึ่งมากกว่าคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่ SMEs ไทยได้เปรียบในการผลิตและขายดีในตลาดจีน เช่น ผลิตภัณฑ์จากไม้ ผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารแปรรูป(ข้าว ธัญพืช ผลไม้ พืชผัก และเมล็ดธัญพืช) ซึ่ง SMEs มีความพร้อมด้านวัตถุดิบและถนัดในธุรกิจด้านนี้ นอกจากถนนสาย R3 เป็นสายพานลำเลียงสินค้าสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการส่งออก โดยเฉพาะค่าขนส่ง เนื่องจากย่นระยะทางการส่งสินค้าสู่ตลาดจีนตอนใต้ (จากเดิมต้องส่งผ่านเมืองท่าชายฝั่งตะวันออกของจีนก่อนแล้วถึงส่งต่อไปตลาดจีนตอนใต้) และลดระยะเวลาการขนส่ง ซึ่งเปิดโอกาสให้การส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของธุรกิจ SMEs ภาคเหนือง่ายขึ้น ต้นทุนบริหารจัดการลดลง ในทางกลับกัน SMEs ภาคเหนือที่นำเข้าวัตถุดิบหรือสินค้าสำเร็จรูปจากจีน ยังสามารถนำเข้าได้ง่าย เร็ว ทำให้ต้นทุนของธุรกิจต่ำลง เพิ่มกำไรและความสามรถในการแข่งขันอีกด้วย

2. SMEs ทั่วประเทศ ซางอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าส่งออกไปจีน คือ อุตสาหกรรมอุปกรณ์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ (SMEs ภาคกลาง) ผลิตภัณฑ์เคมีและผลิตภัณฑ์พลาสติก (SMEs ภาคตะวันออก) มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมูลค่าส่งออก เดือนพฤษภาคมปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.2 ขณะที่ภาคการเกษตร เช่น ผลิตภัณฑ์ยางพารา (SMEs ภาคใต้) ผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง (SMEs ภาคเหนือและอีสาน) ก็มีมูลค่าการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยในเดือนพฤษภาคมปีนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 ดังนั้นเมื่อถนนสาย R3 แล้วเสร็จจะทำให้ SMEs ไทยได้เปรียบคู่แข่งด้านต้นทุนระยะเวลาขนส่ง และสามารถส่งออกไปยังตลาดขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตสูง ซึ่งเห็นได้จากมูลค่าสัญญาธุรกิจการค้าที่เกิดขึ้นกว่า 2.4 แสนล้านบาทจากการจัดงาน ส่งออก-นำเข้านครคุนหมิงครั้งที่ 20 (20 Kunming Fair) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อีกทั้งพื้นที่จีนอนใต้เริ่มพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเข้มข้นในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้การแข่งขันในตลาดยังไม่รุนแรงเท่ากับพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออกของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เทียนสิน เป็นต้น ถนนสาย R3 จึงถือเป็นสะพานลำเลียงสินค้าของ SMEs ไทยสู่ตลาดจีนตอนใต้อย่างแท้จริง และน่าจะสร้างมูลค่าส่งออก SMEs ไทยเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคต

           ดังนั้น หากเรามีการวางกลยุทธ์ในการใช้ถนนสาย R3 รุกตลาดจีนตอนใต้ที่ชัดเจนแล้ว SMEs ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากถนนสายนี้ ในฐานะของสะพานลำเลียงสินค้าอย่างแท้จริง เมื่อประเทศเศรษฐกิจอันดับสองของโลกกลับมาเร่งเครื่องอีกครั้ง เพราะเศรษฐกิจแดนมังกรยังคงเติบโตต่อเนื่องไปอีกนาน“R3” ถนนแห่งความมั่งคั่งของ SMEs ไทยสู่แดนมังกร

สรุปและวิเคราะห์ข่าว : TMB Analytics เห็นว่า SMEs ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งจากถนนสาย R3 (เส้นทางR3 เป็นเส้นทางถนนที่ตัดเชื่อมโยงไทย-ลาว -จีน) เป็นสายพานลำเลียงสินค้าสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการส่งออก โดยเฉพาะค่าขนส่ง เนื่องจากย่นระยะทางการส่งสินค้าสู่ตลาดจีนตอนใต้ (จากเดิมต้องส่งผ่านเมืองท่าชายฝั่งตะวันออกของจีนก่อนแล้วถึงส่งต่อไปตลาดจีนตอนใต้และลดระยะเวลาการขนส่ง ซึ่งเปิดโอกาสให้การส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของธุรกิจ SMEs โดยเข้าสู่ประเทศไทยที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ SMEs ไทยจะสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์จากการเชื่องโยงการค้าสู่ตลาดขนาดใหญ่และมีการเติบโตสูงในปัจจุบันและอนาคตหากเรามีการวางกลยุทธ์ในการใช้ถนนสาย R3 รุกตลาดจีนตอนใต้ที่ชัดเจนแล้ว SMEs ไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากถนนสายนี้ ในฐานะของสะพานลำเลียงสินค้าอย่างแท้จริง

ผู้เสนอข่าว : นายสันติ พงษ์บริบูรณ์  ID : 53112804113

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สรุปข่าวเด่นประจำสัปดาห์


2 กรกฎาคม 8 กรกฎาคม 2555

จีนและยุโรปฉุดส่งออกไทยปี 55 ขยายตัวแค่ 7%

          ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีมองว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่สะท้อนถึงการกลับมาขยายตัวอย่างยั่งยืนของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะตลาดยุโรปที่ยังหาทางออกจากวิกฤติหนี้สาธารณะไม่ได้ เช่น เดียวกับตลาดสหรัฐฯ การฟื้นตัวก็ยังคงเปราะบาง อย่างไรก็ดีผู้ส่งออกและภาครัฐไม่ควรสนใจแต่วิกฤติยุโรปเพียงอย่างเดียว และมองข้ามการแผ่วตัวในประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั้งนี้ทำให้คาดว่า แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง การผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มกลับสู่ระดับปกติได้ทั้งหมดในไตรมาสสาม ยอดส่งออกจะเติบโตขึ้น


Credit : http://www.tmbbank.com/newsroom/news-details.php?id=368

สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด ทีเอ็มมบี เรดดี้แคช






  • นับจากวันอนุมัติสินเชื่อ หลังจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ สูงสุดไม่เกิน 27% ต่อปี กรณีรอบบัญชีแรกน้อยกว่า 30 วัน จะขยายระยะเวลาให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษอีก 1 รอบบัญชี
  • หรือสูงสุด 5 เท่า ของรายได้ประจำต่อเดือน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน
  • ชำระคืนขั้นตํ่าเพียง 5% ของยอดหนี้ แต่ไม่น้อยกว่า
    1,000 บาท
  • สามารถเบิกถอนเงินสดจากเครื่อง ATM กว่า 42,000 เครื่อง ทั่วประเทศ ตลอด 24 ชม.

สมัครง่าย…
เพียงคุณมีรายได้ประจำไม่น้อยกว่า 15,000 บาท/เดือน พร้อมประวัติการเงินดี

ลักษณะผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออเนกประสงค์ในรูปแบบของ วงเงินสินเชื่อหมุนเวียน (Revolving Credit) เพื่อใช้ใน
การอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ด้วยวิธีการเบิกใช้วงเงินสินเชื่อจากบัตรกดเงินสด โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์
หรือบุคคลค้ำประกัน

วงเงินอนุมัติ

วงเงินอนุมัติ สูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ ประจำต่อเดือน หรือตั้งแต่ 30,000 - 1,000,000 บาท

การผ่อนชำระคืนสินเชื่อ

ผ่อนชำระเงินคืนขั้นต่ำ 5% ของยอดเงินที่ใช้จ่าย หรือ ขั้นต่ำ 1,000 บาท ในแต่ละรอบบัญชี
และคิดดอกเบี้ยตามจำนวนวันที่ใช้จริง

การแจ้งผลอนุมัติ และการรับเงินสินเชื่อ

  • กรณีที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ ธนาคารจะจัดส่งบัตรกดเงินสดให้แก่ท่านตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ หลังจากนั้นภายใน 7 วันทำการ ท่านจะได้รับรหัส (PIN) เพื่อใช้คู่กับบัตรกดเงินสด
  • เมื่อท่านได้รับบัตรฯ และรหัสแล้ว กรุณาติดต่อ TMB Contact Center โทร. 1558 เพื่อทำการเปิดบัตร หลังจากนั้น ท่านสามารถเบิกถอนวงเงินในรูปแบบการกดเงินสดจากบัตร ผ่านเครื่อง ATM ที่มีเครื่องหมาย ATM POOL ตลอด 24 ชม. ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการกดเงินสด
  • ขอสงวนสิทธิ์การพิจารณาสินเชื่อโดยอยู่ในดุลพินิจของธนาคาร


วิเคราะห์ข่าว : เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล อัตราดอกเบี้ย 10% ต่อปี สำหรับ 3 รอบบัญชีแรก วงเงินที่อนุมัติสูงสุดอยู่ที่ 1 ล้านบาท หรือ 5 เท่าของเงินเดือน ผ่อนชำระขั้นต่ำ 10% ของยอดหนี้แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1000 บาท ที่สำคัญสามารถกดเงินสดได้ทุกธนาคารโดยไม่มีค่าธรรมเนียม การสมัครต้องมีรายได้ประจำไม่น้อยกว่า 15000 บาท/เดือน และไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน

ผู้เสนอข่าว : นายวรพงษ์ เจริญสรรพพืช ID : 53112804116