ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ TMB Group 3 Blog

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

TMB ให้สินเชื่อหมุนเวียน SGP 1.5 พันลบ.รองรับขยายธุรกิจใน-ตปท.


       
          นายปิติ  ตัณฑเกษม  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ธนาคารทหารไทย(TMB)  เปิดเผยว่าธนาคารได้สนับสนุนทางการเงินครบวงจร โดยจัดวงเงินสินเชื่อ Combined Line มูลค่า 1,500 ล้านบาท แก่ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) ซึ่งเป็นบริษัทค้าก๊าซปิโตรเลียมอันดับ 2 ในประเทศรองจากปตท.ให้นำไปใช้เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ

          ด้านนายวรวิทย์  วีรบวรพงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร SGP  กล่าวว่า ในปี 55 คาดว่ารายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด เติบโตตามเป้าหมายที่ 30% จากปีก่อนหรือประมาณ 50,000 ล้านบาท จากปัจจัยหนุน 2 ทาง คือจากการบริโภคในประเทศ   โดยเฉพาะในภาคครัวเรือนซึ่งทำให้แอลพีจีขยายตัวต่อเนื่อง 
และการเข้าไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Chevron Ocean Gas & Energy Ltd. และ BP Zhuhai (LPG) Limited ซึ่งเป็นคลังแก๊สขนาดใหญ่ในซัวเถา และจูไห่ รวมถึงมีกิจการ Supergas Company Limited ในเวียดนามและได้เข้าซื้อกิจการ Shell Gas (LPG) Singapore Pte. Ltd.ในสิงคโปร์ จึงทำให้ขณะนี้บริษัทมีคลังเก็บแอลพีจีที่รวมแล้วใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเซียตะวันออก
ทั้งนี้ ภายในปี 55 สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายแอลพีจีในประเทศกับต่างประเทศจะเปลี่ยนไป จากเดิมมีสัดส่วนในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ 50:50 ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็น 40:60   ซึ่งเป็นอัตราที่สามารถรองรับการเติบโตของภาคพลังงานในประชาคมอาเซียนต่อไปได้
          “หากรัฐบาลมีการลอยตัวราคาก๊าซของภาคครัวเรือนให้เท่ากับภาคอุตสาหกรรม ก็จะเป็นโอกาสให้สามารถนำเข้าแก๊สเพื่อเข้ามาทำตลาดในประเทศได้ โดยในปัจจุบันบริษัทฯ เองก็ได้มีการนำเข้าแก๊สจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางอยู่แล้ว  แต่ส่งตรงเข้าไปสู่ประเทศในอาเซียนและจีน  ยังไม่ได้นำเข้ามาในประเทศไทยเนื่องจากปัญหาทางด้านต้นทุน ซึ่งถ้าเป็นไปตามนี้ก็จะทำให้บริษัทมีกำไรเติบโตเกือบเท่าตัวเพราะสามารถขายในราคาที่ไม่ต้องถูกควบคุมได้  "นายวรวิทย์ กล่าว

อ้างอิง : http://www.ryt9.com/s/iq10/1526667

สรุปข่าว : ธนาคารได้สนับสนุนทางการเงินครบวงจร โดยจัดวงเงินสินเชื่อ Combined Line มูลค่า 1,500 ล้านบาท แก่ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) ซึ่งเป็นบริษัทค้าก๊าซปิโตรเลียมอันดับ 2 ในประเทศรองจากปตท.ให้นำไปใช้เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ส่วนด้านนายวรวิทย์  วีรบวรพงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร SGP  กล่าวว่า ในปี 55 คาดว่ารายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด เติบโตตามเป้าหมายที่ 30% จากปีก่อนหรือประมาณ 50,000 ล้านบาท จากปัจจัยหนุน 2 ทาง คือจากการบริโภคในประเทศ   โดยเฉพาะในภาคครัวเรือนซึ่งทำให้แอลพีจีขยายตัวต่อเนื่อง และการเข้าไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Chevron Ocean Gas & Energy Ltd. และ BP Zhuhai (LPG) Limited 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น