ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี(TMB Analytics) ประเมินว่า
หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3% ติดต่อกันถึง 4 ครั้ง และคาดจะคงดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกเป็นครั้งที่ 5 ในการประชุมวันที่ 5 ก.ย.นี้
แต่ด้วยโมเมนตัมเศรษฐกิจโลกที่แผ่วลง และวิกฤตหนี้ยุโรปส่งผลกระทบต่อภาคส่งออก
ทำให้มุมมองในการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มมากขึ้น
TMB Analytics มองว่าอัตราดอกเบี้ยที่ 3% ยังคงเป็นอัตราที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจไทยในภาวการณ์ปัจจุบัน
เพราะหากพิจารณาจากเป้าหมายของนโยบายการเงินเพื่อดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพด้านราคา
จะเห็นว่าเงินเฟ้อพื้นฐานในไตรมาส 2/55 ได้แผ่วลงจาก 3
เดือนแรกของปีมาอยู่ที่ระดับ 1.9% ซึ่งใกล้กับจุดกึ่งกลางของกรอบเป้าหมายที่
กนง.ประกาศไว้ที่ 0.5-3.0% ต่อปี
ทำให้แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงภาวะนโยบายการเงินยังคงมีน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น
เมื่อพิจารณาพันธกิจควบคู่ของ ธปท.ในการดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง
จะได้ข้อสรุปที่คล้ายกันว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
เนื่องจากผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ(GDP) ในปัจจุบันได้ขยายตัวสูงกว่าระดับที่ควรจะเป็น (Potential
output) ประมาณ 2.5% จากอานิสงส์การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายหลังน้ำท่วมใหญ่ปีที่ผ่านมา
สะท้อนจาก GDP โตดีเกินคาดในไตรมาส 2/55 ที่ขยายตัวได้ 4.2% ดังนั้นการลดดอกเบี้ยจึงอาจทำให้เศรษฐกิจไทยร้อนแรงเกินไป
ส่งผลให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นได้
อย่างไรก็ดี
แม้ถึงแม้การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอาจจะนำไปสู่การไหลออกของเงินทุน
ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงและอาจช่วยเหลือผู้ส่งออกได้ ตามแนวคิดทฤษฎีความเสมอภาคของอัตราดอกเบี้ย(Interest parity) แต่ทฤษฎีเดียวกันนี้ก็ชี้ว่าการอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงแรกจะทำให้สินทรัพย์ในประเทศมีราคาถูกลงในสายตาของต่างชาติ
(หนึ่งดอลลาร์เท่าเดิมจะซื้อหุ้นไทยได้มากขึ้น)
และเมื่อรวมกับเงินตราต่างประเทศที่ผู้ส่งออกอาจได้รับจากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น
อาจทำให้บาทกลับมาแข็งค่าได้ในระยะต่อไป
การควบคุมส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศไม่ให้ขยับมาก
จึงเป็นการรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนไปในตัว
"เมื่อมองเศรษฐกิจโดยรวมแล้ว
หากความเสี่ยงขาลงจากปัจจัยนอกประเทศ ไม่ได้ทวีความรุนแรงจนเกินคาด
กนง.น่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3% จนถึงปลายปี
และอาจมีแนวโน้มขาขึ้นในปีหน้าจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้จากการเติบโตของอุปสงค์ภายในประเทศ"
สรุปและวิเคราะห์ข่าว : TMB Analytics มองว่าอัตราดอกเบี้ยที่ 3% ยังคงเป็นอัตราที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจไทยในภาวการณ์ปัจจุบัน
เพราะหากพิจารณาจากเป้าหมายของนโยบายการเงินเพื่อดำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพด้านราคา
จะเห็นว่าเงินเฟ้อพื้นฐานในไตรมาส 2/55 ได้แผ่วลงจาก 3
เดือนแรกของปีมาอยู่ที่ระดับ 1.9% ซึ่งใกล้กับจุดกึ่งกลางของกรอบเป้าหมายที่
กนง.ประกาศไว้ที่ 0.5-3.0% ต่อปี
ทำให้แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงภาวะนโยบายการเงินยังคงมีน้อย "เมื่อมองเศรษฐกิจโดยรวมแล้ว หากความเสี่ยงขาลงจากปัจจัยนอกประเทศ
ไม่ได้ทวีความรุนแรงจนเกินคาด กนง.น่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3% จนถึงปลายปี
และอาจมีแนวโน้มขาขึ้นในปีหน้าจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้จากการเติบโตของอุปสงค์ภายในประเทศ"
ผู้เสนอข่าว : นายสันติ พงษ์บริบูรณ์ ID
: 53112804113
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น