![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjuZK2p5pCLp7Y4kLZIDYsNLkFqjgdapMBma0F0vDu_HUkAsxXXSHmD88KX4JiKqfa8MNZfTUtuiSJ0BTyUVg2YIV00NpJeWVeb7FEUTx4SU8yxVmGpL0FJxUysOd-j0TimuIRCxqnIsdc/s320/tmb.jpg)
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่
1 ของธนาคารที่ระดับ “A” และ “BBB+”
ตามลำดับ โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหารและการได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคารคือ
ING Bank N.V. (ING Bank) อันดับเครดิตยังสะท้อนสภาพคล่องในระดับสูงและปริมาณเงินกองทุนจำนวนมากของธนาคารด้วย
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนโดยปริมาณสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)
ที่อยู่ในระดับสูง ตลอดจนความสามารถในการทำกำไรที่ค่อนข้างอ่อนแอ
การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในธุรกิจธนาคารพาณิชย์
รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศและภาวะการเงินโลก ทั้งนี้
ปัจจัยดังกล่าวอาจจำกัดโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจและความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหมายว่าธนาคารจะสามารถปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์
ตลอดจนฐานะการเงิน และประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
การได้รับการสนับสนุนจาก ING Bank คาดว่าจะช่วยให้ธนาคารมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้น
อีกทั้งจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจและขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่ธนาคารได้ในระยะกลาง
นอกจากนี้
แนวโน้มอันดับเครดิตยังอยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ว่าการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากจาก 50
ล้านบาทเหลือเพียง 1 ล้านบาทในเดือนสิงหาคม 2555
นี้จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบในทางลบอย่างรุนแรงต่อระบบธนาคารในทันที
สำหรับอันดับเครดิต
“BBB+” ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่
1 ของธนาคารจำนวน 4,000 ล้านบาท (TMB09PA)
นั้นสะท้อนถึงความด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการเลื่อนชำระดอกเบี้ยของหุ้นกู้ดังกล่าว
โดยหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนเป็นหุ้นกู้ที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาชำระคืน
ไม่สะสมผลตอบแทน มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน
และธนาคารสามารถไถ่ถอนคืนได้หลังจาก 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสาร
และไถ่ถอนได้ทุก ๆ 6 เดือนหลังจากนั้น
ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทนี้จะได้รับการชำระเงินในลำดับถัดจากผู้ฝากเงิน
ผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีประกัน และผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคาร
โดยธนาคารจะไม่มีภาระผูกพันในการจ่ายดอกเบี้ยในกรณีที่ธนาคารมีผลขาดทุนในรอบบัญชีก่อนวันกำหนดชำระดอกเบี้ย
ทั้งนี้ การไม่จ่ายดอกเบี้ยดังกล่าวไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคาร
ทริสเรทติ้งรายงานว่า
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารทหารไทยประกอบด้วยกลุ่ม ING Bank และกระทรวงการคลัง
โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น ณ เดือนมีนาคม 2555 เท่ากับ 30.1%
และ 26.1% ของหุ้นทั้งหมดตามลำดับ ING
Bank ในฐานะหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ของธนาคารเข้ามามีบทบาทในการบริหารงานและช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่สถานะการเงินและธุรกิจของธนาคาร
โดยธนาคารได้นำความรู้ในการบริหารความเสี่ยงรวมถึงจุดแข็งด้านการให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยของ
ING Bank มาใช้ให้เกิดประโยชน์
ปัจจัยดังกล่าวนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะผลักดันให้ธนาคารเติบโตในอนาคต นอกจากนี้
ธนาคารยังได้ดำเนินโครงการ Transformation Program มาตั้งแต่ปี
2551 เพื่อปรับเปลี่ยนให้ธนาคารเป็นองค์กรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมุ่งเน้นการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อความสำเร็จในอนาคต
อย่างไรก็ตาม
คณะผู้บริหารยังคงเผชิญกับความท้าทายในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน
ตลอดจนการขยายฐานสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดกำไร การพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์
และการรักษาฐานเงินทุนให้มีความมั่นคงท่ามกลางสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจในอนาคตที่ยังไม่มีความแน่นอน
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ธนาคารทหารไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ
7 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของเงินให้สินเชื่อ 4.9% และเงินรับฝาก 5.9% ธนาคารมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 713.4
พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% จาก 638.6 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 ธนาคารมีฐานะทางการเงินดีขึ้น
โดยในปี 2554 มีกำไรสุทธิ 4,009 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 25.2% จาก 3,202 ล้านบาทในปี
2553 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ย (ROAA)
และผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ย (ROAE) สำหรับปี 2554 เท่ากับ 0.61% และ
7.85% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจาก 0.57% และ
6.63% ในปี 2553 จากผลของการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ค่าธรรมเนียมเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกของปี 2555 ธนาคารมีผลประกอบการลดลงเล็กน้อยเนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น
โดยธนาคารมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,031 ล้านบาท ลดลง 5.9%
จากงวดเดียวกันของปีก่อนโดย ROAA และ ROAE
ที่ยังไม่ได้ปรับเต็มปีเท่ากับ 0.14% และ 1.95%
ตามลำดับ ลดลงจาก 0.18% และ 2.20% สำหรับช่วงเดียวกันของปีก่อน
และแม้ว่าฐานะทางการเงินของธนาคารจะดีขึ้นในช่วงปี 2551-2554 แต่ความสามารถในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินยังคงต้องรอการพิสูจน์ต่อไป
ธนาคารทหารไทยได้ดำเนินการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ตามแผนกลยุทธ์ทั้งโดยวิธีการปรับโครงสร้างหนี้
การจำหน่ายสินเชื่อด้อยคุณภาพ และการตัดจำหน่ายหนี้เสียออกจากบัญชี ส่งผลให้ NPL ลดลงอย่างต่อเนื่อง
จาก 36.0 พันล้านบาทในปี 2553 เป็น 29.8
พันล้านบาทในปี 2554 อัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมลดลงจาก 9.91% ในปี 2553 เป็น 7.49% ในปี 2554 ในขณะที่อัตราส่วนสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(NPA) (สินเชื่อจัดชั้นค้างชำระเกิน 3 เดือน
สินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และทรัพย์สินรอการขาย) ต่อสินทรัพย์รวมในปี 2554
เท่ากับ 5.07% ลดลงจาก 7.84% ในปี 2553 อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555
NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 30.5 พันล้านบาท
(คิดเป็น 7.59% ของสินเชื่อรวม) โดยอัตราส่วน NPL ของธนาคารยังคงอยู่ในระดับสูงที่สุดในบรรดาธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 11
แห่ง (ไม่รวมธนาคาร 4 แห่งที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย)
และสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 3.59% ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารอย่างใกล้ชิดต่อไป
ทางด้านแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องนั้น
ธนาคารทหารไทยสามารถปรับโครงสร้างเงินทุนให้มีการกระจายตัวดียิ่งขึ้น
อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำกว่าและมีเสถียรภาพมากขึ้น โดย
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ธนาคารมีเงินรับฝากประเภทบัญชีกระแสรายวันและออมทรัพย์คิดเป็น
59% ของเงินรับฝากรวมตั๋วแลกเงินซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 43%
ในปี2553 นอกจากนี้
ธนาคารยังดำรงสภาพคล่องให้อยู่ในระดับสูง โดยมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากรวมตั๋วแลกเงิน
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 เท่ากับ 83.3% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ระดับ
95.5%
ธนาคารทหารไทยมีฐานเงินทุนและสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่มากพอเพื่อใช้รองรับความสูญเสียที่มิอาจคาดการณ์ได้จากความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะแวดล้อมในการดำเนินงาน
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ธนาคารมี NPA คิดเป็น 0.40
เท่าของเงินกองทุนรวมสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ โดยลดลงจาก 0.53
เท่าในปี 2553 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ระดับ
0.50 เท่า นอกจากนี้ ธนาคารยังมีฐานเงินทุนที่เพียงพอสำหรับใช้ขยายธุรกิจในระยะกลาง
โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่
1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Tier-1 Ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง
(BIS Ratio) เท่ากับ 11.19% และ 16.24%
ตามลำดับ ลดลงเล็กน้อยจาก 11.33% และ 16.59%
ณ สิ้นปี 2553 อันเป็นผลจากปริมาณสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม
อัตราส่วนดังกล่าวของธนาคารยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ 10.39%
และ 14.89% ตามลำดับ
และสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ระดับ 4.25% และ 8.50% ตามลำดับ ทริสเรทติ้งกล่าว
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A+
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TMB19NA:
หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 5,300 ล้านบาท
ไถ่ถอนปี 2562 คงเดิมที่ A
TMB204A:
หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 8,000 ล้านบาท
ไถ่ถอนปี 2563 คงเดิมที่ A
TMB09PA:
หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1
4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2652 คงเดิมที่ BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)
สรุปและวิเคราะห์ : บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่
1 ของธนาคารที่ระดับ “A” และ “BBB+”
ตามลำดับ โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555
ธนาคารทหารไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ
7 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของเงินให้สินเชื่อ 4.9% และเงินรับฝาก 5.9% ธนาคารมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 713.4
พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% จาก 638.6 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 ธนาคารมีฐานะทางการเงินดีขึ้น
โดยในปี 2554 มีกำไรสุทธิ 4,009 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 25.2% จาก 3,202 ล้านบาทในปี
2553 โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่
1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Tier-1 Ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง
(BIS Ratio) เท่ากับ 11.19% และ 16.24%
ตามลำดับ ลดลงเล็กน้อยจาก 11.33% และ 16.59%
ณ สิ้นปี 2553
ผู้เสนอข่าว : นายสันติ พงษ์บริบูรณ์ ID
: 53112804113